คุณมีเหตุผลอยู่กี่ดอลลาร์ หนังสือที่อธิบายว่าเรื่องเงินอย่างไร รวมถึงความผิดพลาดที่เราก่อขึ้นเมื่อคิดเรื่องเงิน ช่องว่างระหว่างความเข้าใจที่เรามีต่อวิธีใช้เงิน วิธีใช้เงินที่แท้จริงของเรา
รายละเอียดหนังสือ คุณมีเหตุผลอยู่กี่ดอลลาร์
ISBN : 9786162873812 (ปกอ่อน) 384 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 145 x 210 x 22 มม.
น้ำหนัก : 455 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น, สนพ.
ชื่อเรื่องต้นฉบับ : Dollars and Sense
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ : Bridge Communications Co.,Ltd.
ราคา 350 บาท
สรุปเนื้อหาหนังสือ
- อย่าเล่นการพนัน
- คชจ.คาสิโน อยู่ใน บัญชีในใจ คนละบัญชีกับค่ากาแฟ หรือคชจ.ประจำวัน
- ของฟรี มักจะลงเอยด้วยการทำให้เราเสียคชจ.อย่างคาดไม่ถึง
- การใช้ชิปทำให้ไม่รู้สึกว่ากำลังใช้จ่ายเงิน
- การเทียบเคียง กาแฟ 4 ดอล แพงกว่ากาแฟฟรีที่โรงแรม
2. โอกาสมาเยือน
- ต้นทุนค่าเสียโอกาสเป็นสิ่งที่เราควรจะนึกถึงเวลาที่เราตัดสินใจเรื่องเงิน เพราะเราจะตัดตัวเลือกอื่นๆ ทิ้งไป
- สินค้าหรือบริการอะไรที่เราไม่สามารถซื้อได้ หากเราตีดสินใจซื้อรถ
- การแทนค่าเงินด้วยสิ่งที่ไม่เฉพาะเจาะจงส่งผลให้เราประเมินค่าของเงินต่ำกว่าความเป็นจริง
3. การเสนอมูลค่า
- มูลค่าจะสะท้อนถึฃคุณค่าสิ่งของบางอย่าง
- มูลค่าควรสะท้อนถึงต้นทุนเสียโอดาสด้วย เราจะละทิ้งอะไร เพื่อให้เราได้รับประสบการณ์บางอย่าง
4. เราลืมไปว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของการเทียบเคียง
- การซื้อของลดราคาเยอะๆ เป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจ
- การซื้อของโดยเทียบเคียงกับราคาก่อนลด
- ประเมิณมูลค่าสินค้านั่นยาก เราจึงเทียบเคียงกับสิ่งนั้นกับสิ่งอื่น
- ตัดสินตากปริมาณ โดยเทียบเคียงด้วยถ้วย
- การเปรียบเทียบไข่มุกดำ กับเพชรพลอย
- เราควรประเมิณมูลค้าสินค้าจากที่เราจ่ายไป ไม่ใช่จ่ายมูลค่าที่มันลดราคาลงมา
- การมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบ ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- การมีโปรโมชั่น ทำให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายขึ้น
- ส่วนลดเป็นยากระตุ้นความโง่เขลา
- ตัดสินใจโดยอาศัยการเทียบเคียงตัวเลือก
- สินค้าราคาแพง กับราคาถูก เป็นเส้นทางให้เราเลือกราคาปานกลางแทน
- ความสุขจากการเปรียบเทียบกับคนอื่น?
5. เราแบ่งแยกหมวดหมู่
- การตัดสินใจใช้จ่ายเงิน ไม่ควรจะได้รับอิทธิพลจากบัญชีงบประมาณแต่ละหมวด
- การใช้เงินขึ้นอยู่กับว่าเราได้เงินมาอย่างไรด้วย ยาก/ง่าย
- เงินที่ได้มาพิเศษ จะใช้จ่ายได้ โดยปราศจากความรู้สึกผิด
- เมื่อเราประหยัดเงินจากหมวดหมู่นึง เราจะให้รางวัลใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีกหมวดหมู่นึง
6. เราหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด
- การปิดฉากอย่างสุขสันต์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วงปิดท้ายของประสบการณ์หนึ่ง จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะคิดถึงจดจำและประเมินค่าประสบการณ์ทั้งหมดนั้นอย่างไร
- การจ่ายเงิน เหมือนต้องทิ้งอะไรบ้างอย่าง
- ฮันนีมูน ควรลดความเจ็บปวดการจ่ายเงิน ส่วนของหวาน ควรเพิ่มความเจ็บปวดการจ่ายเงิน
- เรายอมจ่ายเงินมากขึ้น เมื่อจ่ายล่วงหน้า
- จ่ายเงินน้อยลงเมื่อจ่ายทีหลัง
- จ่ายเงินน้อยที่สุดเมื่อจ่ายระหว่างที่บริโภคสินค้า
- ความเจ็บปวดจากการจ่ายเงินทรงพลังมาก จนขัดขวางพวกเขาให้ยอมอยู่อย่างทรมาน
- เมื่อเราจ่ายเงินซื้ออะไรก่อนที่จะใช้สิ่งนั้น เราก็จะแทบไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย
- บัตรเครดิตทำให้เราคิดถึงแง่บวกกับของที่ซื้อมา ตรงข้ามกับการจ่ายเงินสด จะทำให้คิดถึงแง่ลบมากกว่า การประเมินค่าต่างกัน
7. เราเชื่อใจตัวเอง
- ยิ่งราคาประกาศขายบ้านสูงเท่าไร มืออาชีพก็มักจะประมาณราคาบ้านนั่นสูงขึ้น
- และในทางกลับกัน คนทั่วไปจะไม่ค่อยสนราคาประกาศขาย
- ระดับความพึงพอใจแต่ละคนนั้นแตกต่างกันมาก จึงอาจประเมินมูลค่าต่างกัน
- เมื่อมีราคาถูกเสนอขึ้นมา และเราเกลี้ยกล่อมให้ตัวเองเชื่อว่ามันเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ราคานั้นจะฝั่งแน่นอยู่ในหัวของเรา
8. เราประเมินค่าสิ่งที่มีสูงเกินจริง
- ปรากฎการณ์ความเป็นเจ้าของ
- ความพยายาม และความทุ่มเท ทำให้เราเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของมากยิ่งขึ้น
- คนที่ถือแก้วกาแฟนานเกิน 30 วินาที มีโอกาสจ่ายเงินซื้อมากกว่าถือแค่ 10 วินาที
- ให้ลูกค้าทดลองใช้ก่อนเดือนแรก
- การหลีกเลี่ยงความสูญเสีย
- เรารู้สึกเจ็บปวดจากการสูญเสียเงิน 10 ดอลลาร์อย่างรุนแรง มากกว่าที่รู้สึกยินดีจากการได้เงิน 10 ดอลลาร์ถึงสองเท่า
- มีโอกาส 20% ที่จะรอดชีวิต กับ มีโอกาส 80% ที่จะเสียชีวิต
- ต้นทุนจม sunk costs
- เราไม่ควรคิดว่าตัวเองลงทุนไปมากแค่ไหนแล้ว แต่เราควรมุ่งเน้นว่ามันจะมีค่ามากแค่ไหนในอนาคต
- เราควรคิดว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน และอะไรจะเกิดขึ้นนับจากนี้ ไม่ใช่คิดว่าเรามาจากตรงไหน
9. เราใส่ใจเรื่องความยุติธรรม และความพยายาม
- ความไม่ชอบทำให้เราลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อแสดงความไม่พอใจ
- เราให้ความสำคัญกับความพยายาม และใช้ระยะเวลาทำงานนาน มากกว่าผลลัพธ์ที่ออกมา
- ความโปร่งใสในความพยายาม เพิ่มคุณค่าได้ เพราะลูกค้าเข้าใจมูลค่า
10. เราเชื่อในมนตร์วิเศษของภาษา และพิธีกรรม
- เนื้อวัวปราศจากไขมัน 80% กับ เนื้อวัวมีไขมัน 20%
- เงินคืน 200$ เอาไปใากธนาคาร กับ โบนัส 200$ เอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
- คำว่างานฝีมือทำให้เพิ่มมูลค่าสินค้าเพราะต้องอาศัยความพยายามมากเป็นพิเศษ
- การแบ่งปันย่อมยุติธรรมและเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของมนุษย์
- พูดให้เข้าใจยากเป็นการสร้างมูลค่าอย่างนึง
- กินช็อกโกแลตแบบนี้ต้องมีพิธีรีตองกลับมีการหักและแกะห่อหรือวิธีการบางอย่างแล้วค่อยกิน เรียกว่า พิธีกรรม ก่อนบริโภค
11. เราประเมินค่าความคาดหวังสูงเกินจริง
- ความคาดหวังสามารถเปลี่ยนแปลงแนวทางที่เราสัมผัสสิ่งต่างๆ ได้
- ความคาดหวังของครู ได้เปลี่ยนพฤติกรรมที่มีต่อเด็กที่หวังว่า พวกเขาจะเรียนดี
- ภาพเขียนโมนาลิซาถูกขโมย จึงทำให้มันดูมีมูลค่ามาก
- ปัญหาของความคาดหวังที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในอดีตก็คือ ถ้ามันแตกต่างจากประสบการณ์นั้นมากเกินไป มันอาจจะทำให้เราผิดหวัง เช่นเคยได้เงิน 100$ แต่ปีนี้ได้ 25$
- เมื่อเราจ่ายเงินก่อนจะบริโภค มันจะลดความรู้สึกเจ็บปวดในขณะบริโภค
- พึงพอใจมากขึ้น หากพวกเขาจินตนาการว่าเกมยอดเยี่ยมแค่ไหนก่อนที่จะได้เล่น (ปัจจัยกระตุ้นความอยาก)
12. เราควบคุมตัวเองไม่ได้
- เราเผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเองอยู่ตลอดเวลา
- เราประเมินค่าเวลาปัจจุบันสูงกว่าประเมินค่าสิ่งเหล่านั่นในอนาคต
- การเลือกในอนาคตจะไม่มีอารมณ์มากเกี่ยวข้อง
- ปัจจัยใดบ้างนอกเหนือจากการลดความสำคัญของอนาคตที่ทำให้พลังใจเราลดลง
- เรามักจะกิน เพราะเราเห็นอาหาร
- การมีฐานะมั่งคั่งขึ้นอย่างกะทันหันมักก่อให้เกิดความท้าทายมากเป็นพิเศษ
13. เรามุ่งเน้นเรื่องเงินมากเกินไป
- ของแพงย่อมต้องดีกว่าเสมอ ?
- เราจะเชื่อมโยงราคาเข้ากับมูลค่า
- ราคาแพงเป็นสัญลักษณ์แทนประสิทธิภาพ ?
- เมื่อความซับซ้อนของสินค้าเพิ่มขึ้น การอาศัยราคากลายเป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่าย และน่าดึงดูดมากขึ้น
- เงินไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายในชีวิต มันคือวิธีการไปสู่จุดหมาย เนื่องจากเงินเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกวาาความสุข
- เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ไม่มีคนใกล้ตายคนใดที่นึกเสียดายว่าพวกเขาน่าจะใช้เวลากับเงินของตัวเองมากกว่านี้
- กลยุทธ์การตัดสินใจทางการเงินที่มีประโยชน์คือ การแสร้งว่าเงินไม่มีอยู่จริง
14. ใช้จ่ายเงินอย่างมีสติ
- ดวลาตัดสินใจเรื่องเงิน สิ่งที่ควรจะมีความสำคัญก็คือต้นทุนค่าเสียโอกาส
- ผลประโยชน์ที่แท้จริงจากของที่ซื้อ
- ความเพลิดเพลินที่แท้จริงที่เราได้รับ เมื่อเทียบกับจากการใช้เงินในการทำอย่างอื่น
- คุณต้องเสียสละสิ่งใด เพื่อให้ได้สิ่งใดมาครอบครอง แปลงเงินให้กลายเป็นระยะเวลาที่ต้องทำงานเพื่อใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น เงินเดือนจำนวนกี่เดือน
- การซื้อเสื้อในราคา 60 บาทที่ลดราคาจาก 100 บาทไม่ใช่การประหยัดเงิน 40 บาทแต่เป็นการใช้จ่ายเงิน 60 บาท
- เงินแต่ละบาทเหมือนกันหมดไม่สำคัญว่าเงินนั้นได้มาจากที่ไหนจะมาจากการทำงานหรือลอตเตอรี่หรือปล้นธนาคาร
- คนที่ไม่นำประวัติการใช้จ่ายของเราเองมาเป็นบทเรียนย่อมมีโอกาสทำแบบนั้นซ้ำอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
15. ควบคุมตัวเอง
- สาเหตุที่เราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เป็นเพราะเรามองข้ามอนาคตไป เนื่องจากไม่มีความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับมัน
- การออมเงินเพื่ออนาคตให้ความรู้สึกเหมือนกันมอบเงินให้กับคนแปลกหน้าแทนที่จะให้ตัวเอง
- ลองเขียนจดหมายหาตัวเองในอนาคต
- เรามีแนวโน้มจะออมเงินเพื่อการเกษียณในวันที่ 18 ต.ค. 2037 มากกว่าในอีก 20 ปี ควรระบุชัดเจน
- สัญญายูลิสซีส หรือควบคุมตัวเองแบบผูกมัด เราทำให้ตัวเองไม่มีทางเลือก
16. ศึกระหว่างเรากับพวกเขา
- ข้อมูลมากไปย่อมไม่ดี เช่น เก็บข้อมูลการเต้นหัวใจ ปริมาณแคลอรี่ จำนวนก้าวเดิน เพราะมันลดทอนความเพลิดเพลินได้
- ประเมินระดับการจ่ายเงินที่เหมาะสมด้วยการเฝ้ามองสิ่งที่เพื่อนของเรากำลังทำอยู่ ยกเว้นการออมเงินที่ไม่สามารถเห็นได้
- เราสามารถใช้จ่ายเงินน้อยลงได้ด้วยการซุกซ่อนเงินไม่ให้ตัวเองเห็น
- การลงทุนซึ่งให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือคนที่บืมไปว่าตัวเองมีพอร์ตการลงทุน
- เมื่อเงินเดือนถูกนำเสนอเป็นจำนวนรายปี เราจะมีมุมมองระยะยาวมากขึ้น ทำให้ออมเงินเกษียณมากกว่า
- เงิยเดือน 6,000 กับ เงินเดือน 5,000 + โบนัส 12,000 จะดีกว่า เพราะเงินไม่หมดไปกับรถ อาหาร แต่จะเอามาใช้มำอะไรพิเศษ ไม่ก็ออมเงิน
17. หยุดและคิด
- คนฉลาดรู้ดีเมื่อตัวเองกลายเป็นคนโง่
- ได้รับเงินซองเดียว เราจะใช้จนหมด เหมือนการกินขนม แต่ถ้าแยกหลายซอง เราจะหยุดพัก เมื่อหมดแต่ละซอง
- เราได้รับความเพลิดเพลินและมูลค่าที่แท้จริงมากแค่ไหนจากการซื้อของ