ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว วันที่ 19 ตุลาคม 2554 น้ำเริ่มท่วมเข้ามาในหมู่บ้านบัวทองอย่างรวดเร็ว และทำให้บางบัวทองจมอยู่ในน้ำนานถึง 2 เดือนเต็ม
เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้าระดับน้ำถึงบริเวณแค่ตาตุ่มเท้า ต่อมาเวลา 9 โมงท่วมถึงหัวเข่า พอเวลา 11 โมง เกือบถึงระดับเอว หลายคนเริ่มอพยพหนีออกจากบ้านด้วยเรือบ้าง ด้วยรถบ้าง ส่วนบ้านผมรีบทยอยยกของขึ้นที่สูง แต่ก็ยกได้เพิ่งบางส่วนเท่านั้น โชคดีที่ในตอนเช้าพ่อได้เอารถไปจอดไว้ที่ทำงานแม่ก่อน พอตอนเที่ยงเราก็กินข้าวในบ้านขณะที่เท้าแช่น้ำถึงระดับตาตุ่มแล้ว พวกเราก็วางแผนกันว่าจะต้องอพยพออกจากบ้าน ไปอยู่บ้านน้าที่เพชรเกษม ช่วงบ่าย 4 โมงก็มีรถทหารคันใหญ่ขับมาในซอยพอดี พวกเราก็เรียกให้จอดก่อน รีบเก็บของใช้ที่จำเป็น ปิดบ้านให้หมด และขึ้นรถ พี่ๆทหารก็ช่วยกันอุ้มอาม่าขึ้นรถด้วย เพราะว่าน้ำสูงมากเกือบจะถึงระดับอกแล้ว ระหว่างที่ขับรถออกหน้าหมู่บ้านก็ได้เห็นสภาพบ้านแต่ละหลังน่าหดหู่มากๆ บางคนไม่อยากทิ้งบ้าน ก็ต้องทนอยู่กับน้ำโดยไม่มีไฟฟ้าใช้ พอเดินทางมาถึงบ้านน้าอย่างทุลักทุเล ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี พอผมอยู่ไปได้ 2 วันก็ได้แต่นั่งเบื่อไปวันๆไม่มีอะไรทำ โชคดีที่เอาโน็ตบุ้คติดมาด้วย และบังเอิญไปเจอเว็บ thaiseoboard.com ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดเก็บกับการทำ SEO (search engine optimization)
ซึ่งเป็นการทำให้เว็บเราติดอันดับต้นๆ ของ Google Search ผมใช้เวลาศึกษาด้วยตัวเองได้ 1 เดือนเต็ม ก็สามารถเริ่มหารายได้จากการรับทำ SEO มาบ้าง ได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายของครอบครัว เพราะน้ำท่วม พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ทำงานขาดรายได้ไป และถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลียนในชีวิตผม ที่ได้วิชา SEO ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นเริ่มสนใจ Online Marketing มาจนถึงทุกวันนี้ พออยู่ได้ซักพักก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นอีก เพราะน้ำกำลังจะมา ก็ลงความเห็นว่าจะไปอยู่ฉะเชิงเทรา เพราะพ่อรู้จักเพื่อนที่นั้น พอไปถึงที่เต็ม แม่ก็ลองติดต่อสรรพากรพื้นที่ อ.พนมสารคาม โชคดีที่มีบ้านว่างให้อยู่อาศัย
พอมาอยู่ที่นี่ ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ บังเอิญน้าอีกคนได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดใกล้ๆ จึงชวนผมกับน้องไปอยู่วัด เพื่อฝึกวิปัสสนากรรมฐานและนอนค้างที่วัดเป็นเวลา 7 วัน รู้สึกเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข และน่าจดจำมาก เราได้อยู่กับตัวเอง มีสติและสมาธิมากยิ่งขึ้น แต่พอ 5 วันผมก็รู้สึกเป็นห่วงพ่อกับแม่เพราะต้องมีภาระมากมายที่บ้าน พอออกมาก็ว่างไม่มีอะไรทำอีกแล้ว ส่วนตัวผมเป็นขี้เบื่อ ไม่ชอบอยู่เฉยๆ รู้สึกว่าเวลาชีวิตมันมีค่า ผมไปห้างหาซื้อหนังสือมาอ่านแก้เหงาดีกว่า มองไปมองมา ไปเจอหนังสือ Marketing 3.0 ของ Philip Kotler เนื่องจากผมได้ศึกษา SEO มันก็มีพูดถึงการตลาดด้วย ผมเลยอยากศึกษาข้อมูลในด้านนี้ให้ลึกขึ้น ใช้เวลาอ่าน 2 วันก็จบแล้วครับ รู้สึกชอบมาก เหมือนหนังสือเป็นเพื่อนสนิทของเราที่เล่าเรื่องสนุกๆให้เราฟัง นั้นแหละครับ มันจึงเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้ผมชอบอ่านหนังสือมาจนถึงทุกวันนี้ จากนั้นผมก็ลองไปเดินตลาดแถวบ้านก็ได้ไปเจอกับห้องสมุดประชนชน ตอนนั้นโคตรดีใจเลย ลองเข้าไปนั่งอ่านได้สักพัก เฮ้ยยย หนังสือน่าสนใจมาก ผมก็ได้สมัครสมาชิกเอาไว้และยืมหนังสือมาอ่านหลายเล่ม ที่จำได้ก็จะมีหนังสือ Salmon สอนคน, 7 พลัง สร้างความสำเร็จ, สู่ความเป็นอัจฉริยะด้วยการพัฒนาพลังสมอง, คู่มือควบคุมอารมณ์คน, ฯลฯ มีอีกหลายเล่ม แต่นึกชื่อหนังสือไม่ออก ส่วนใหญ่จะเป็นของสำนักพิมพ์ INSPIRE ก็ถือว่าเป็นอีก 1 เดือนที่ผมได้อยู่กับหนังสืออย่างมีความสุข
พอข่าวบอกว่าน้ำที่ท่วมบางบัวทองเวลา 2 เดือนจากระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ตอนนี้เริ่มลดลงแล้ว พวกเราจึงเตรียมตัวเก็บข้าวของเครื่องใช้กลับบ้านด้วยความคิดถึง การเดินทางลำบากมาก ถนนเสียหายเป็นหลุมบ่อ รถติดเพราะหลายคนเริ่มทยอยกลับมาทำความสะอาดบ้านตัวเอง
ข้างหน้าหมู่บ้านถึงกับมีคิวเรือรับจ้างมาคอยบริการรับส่งคนในหมู่บ้าน น้ำข้างนอกสีค่อนข้างขุ่นแล้ว พอเจอน้ำข้างในบ้านแบบว่าสีดำสนิท และมีกลิ่นเหม็นสุดๆ ต้องใช้ EM ball ช่วยขจัดน้ำเสีย พวกเราก็เริ่มนำของออกจากบ้านทั้งหมด ทำความสะอาดหลายรอบมาก ทั้งขัดพื้นขัดกำแพง ต้องใช้เวลาสักพักกว่ากลิ่นน้ำเน่าจะหายไป…
เมื่อผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ครอบครัวผมก็เหมือนเจอมรสุมลูกใหญ่ผ่านมาในชีวิต ถ้าเราผ่านมันไปได้ มันก็จะแกร่งยิ่งขึ้น ถือว่าได้ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่มากๆ ได้เคลียของที่เก็บไว้นานไม่ได้ใช้แล้วออกจากบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆ เสียแล้วซื้อใหม่ได้ แต่บ้างสิ่งบ้างอย่าง(ไดอารี่ รูปถ่ายเก่าๆ) จมไปกับน้ำแล้ว เงินมากขนาดไหนก็ไม่สามารถซื้อคืนกลับมาได้ T.T
#เพิ่มพลังด้านบวก #สร้างแรงบันดาลใจ #หลงไหลการลงทุน