Super Productive หนังสือที่รวมครบทุกรสเนื้อหา ทั้งการจัดการตัวเอง จัดการธุรกิจ และจัดการทีม ที่อ่านง่าย ได้แนวคิดมาต่อยอดเยอะ
รายละเอียดหนังสือ Super Productive
ISBN : 9786167942599 (ปกอ่อน) 264 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 120 x 186 x 15 มม.
น้ำหนัก : 255 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : KOOB, สนพ.
เดือนปีที่พิมพ์ : 2019
ราคา : 219 บาท
สรุปเนื้อหา
- การสู้กับ burnout ที่ดีที่สุดคือการทำต่อแบบไม่ต้องคิดเยอะ
- จะต้องไม่เอาเวลาของงานประจำไปทำ และไม่ใช้เวลาของครอบครัว ต้องไม่เบียดเบียนเวลาสุขภาพ
- วินัยในการเรียนรู้ คือไม่ได้สักแต่ว่าทำไป แต่ทุกครั้งที่ทำ ต้องคิดด้วยว่าจะทำยังไงให้ดีกว่าเดิม
- จุดเริ่มต้นของการที่จะไปไหนสักแห่ง คือการตัดสินใจจะไม่อยู่ที่เดิม
- หยุดกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ
- ความกลัวทำให้เราไม่สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้อย่างเต็มศักยภาพ เพราะเราใช้พลังงานส่วนหนึ่งไปเพื่อสู้กับความกลัว
- การแสดงออกที่ใกล้ที่สุด คือการคิดเพื่อตัวเอง และประกาศออกมา
- งานสำคัญที่ไม่ด่วน เป็นสิ่งที่คนผลัดวันประกันพรุ่งไม่ได้ทำ และงานประเภทนี้ทำให้เราเก่ง และเติบโตขึ้น
- การเข้าใจตัวเอง คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับตัวเอง เช่นเราเป็นยังไง อะไรที่กระตุ้นเรา อะไรที่เป็นบุคลิกภาพของเรา เราชอบสภาวะแวดล้อมแบบไหน เราให้ค่ากับอะไรในชีวิต
- Deep work ได้ดีที่สุดคือ ไม่เกิน 3 ถึง 5 ชั่วโมงหลังตื่นนอน
- งานบางอย่างไม่เหมาะที่จะทำตอนเหนื่อยๆ
- แก้ burnout คือหาหนังสือใหม่ๆ มาอ่าน ออกกำลังกายเยอะๆ และใช้เวลากับมนุษย์จริงๆ
- การมีส่วนร่วมของพนักงาน ส่งผลต่อกำไรของบริษัทโดยตรง
- ผู้มีปัญญาจะไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้อง แต่เขาจะถาม คำถามที่ถูกต้องต่างหาก
- อีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้าธุรกิจเราจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน
- ทำยังไงก็ได้ ให้คนที่ไม่อยากเปลี่ยนแปลงมีแรงน้อยลง และเพิ่มแรงให้กับคนที่อยากเปลี่ยนแปลง หรือค่อยๆ ลดความสำคัญเรื่องนึงลง และเพิ่มความสำคัญอีกเรื่องมากขึ้น ไม่ใช่ตัดออกเลย
- แนะนำหนังสือ Zero to one ของ Peter thiel
- สร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ มี Story
- เลือกลูกค้าให้เจาะจง และแคบที่สุด
- การประกอบรถใช้เวลานาน เลยถ่ายรูปอัพเดตว่าถึงขั้นไหนแล้ว ทำให้เกิดความผูกพันธ์
- ทำแล้วสนุก ทำแล้วมีจุดประสงค์ที่ต้องการ ทำแล้วรู้ว่าอนาคตจะเติบโต
- คนบ้างาน คือคนที่ทำงานที่ออฟฟิศ หรือที่บ้านก็ได้ แต่ดันทำสิ่งที่ตอนนั้นไม่ต้องทำก็ได้ เป็นงานไม่สำคัญ แต่ยังอยากทำอยู่
- สร้างสภาวะแวดล้อมที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัย
- ความผิดพลาด เป็นหนึ่งในเครื่องมือการเรียนรู้
- จินตนาการมาจากเรื่องเล่า เรื่องเล่าสามารถทำให้คนเป็นล้านเชื่อในสิ่งเดียว
- ถ้าวันนี้มีเวลาทำงานได้แค่ 1-2 อย่าง งานนั้นคืออะไร ?
- ให้ทุกคนรู้อย่างชัดเจนว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร
- บอกสิ่งที่คาดหวังอย่างชัดเจน
- คุยกันแบบหนึ่งต่อหนึ่งบ้าง
- คนที่มีประวัติทำงานซื่อสัตย์มากๆ มีแนวโน้มที่จะทำตัวเสื่อมเสีย หากทำงานใกล้ชิดกับคนไม่ซื่อสัตย์ ในทางกลับกัน คนที่ไม่ซื่อสัตย์ ทำงานกับคนดีๆ ไม่มีโอกาสเลยที่เขาจะเป็นคนซื่อสัตย์
- เราไม่สามารถสอนอะไรใครได้ แต่เรากระตุ้นการเรียนรู้ของเขาได้
- การให้เกียรติง่ายมาก เริ่มจากการเปิดประตูให้พนง. ที่ยกของหนัก รู้สึกเป็นพวกเดียวกัน
- ความสัมพันธ์ทางสังคมมีผลต่อเรามาก
- คุณภาพ สำคัญกว่าจำนวนเพื่อน หรือความสัมพันธ์
- ชีวิตสั้นเกินไปกว่าจะใช้เวลาไปกับการทะเลาะ อิจฉาริษยา
- เรามักไม่ค่อยเสียใจกับเรื่องที่เราตัดสินใจทำไปแล้ว แต่เรามักจะเสียใจกับเรื่องที่เราไม่ได้ทำ
- ทุกคำล้อเล่นของเพื่อน มีความจริงอยู่ครึ่งหนึ่งเสมอ
- เลือกคนที่อยู่รอบตัวคุณให้ดี
- อย่าหวังอะไรใหม่ๆ จากพฤติกรรมเก่าๆ
- สะสมเรื่องราวมากว่าสิ่งของ ออกไปเที่ยว มากกว่าซื้อของสะสม
- ของที่สร้างยากที่สุดคือ ชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และมันมักจะถูกทำลายง่ายเช่นกัน
ขอบคุณรูปจาก unsplash.com